Nn ใช้ส่วนไหนคิดใช้ส่วนไหนตริตรองกับเสียงสำรอกสำรากที่ว่า “เศรษฐกิจประเทศเรากำลังวิกฤต” แต่ท่านผู้นำนั่งเครื่องบินหอบหิ้วภาคเอกชนปนคนกันเองอย่างภริยาและบุตรสาวข้ามน้ำข้ามทะเลแล้วไปชวนนักลงทุนต่างชาติมาลงทุนในประเทศไทย แต่กลับประกาศว่าจะไม่ “ปฏิรูป แต่ใช้วิธีปฏิบัติแบบค่อยเป็นค่อยไป…ยังไม่มีนโยบายปรับโครงสร้างปัญหาคาราคาซัง” อย่างจริงจัง ถามแทนติ่งแดงด้อมส้มจำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวรอฟังแต่เสียงเคาะกะลาอย่างตรงไปตรงมาจาก “ท่านผู้นำหนูน้อยถุงเท้าแดง” นักลงทุนต่างประเทศเหล่านั้นเขามีสมองคิดหรือไม่โลกทุกวันนี้เป็นยุคโลกาภิวัตน์ เป็นยุค Globalization หรือยุคที่โลกไร้พรมแดนเขาจะประเมินไทยอยู่ในระดับไหน? ในเมื่อเสียงเห่าหอนกระโชกอยู่ตลอดเวลาในขณะนี้ว่า “ประเทศไทยกำลังประสบวิกฤตเศรษฐกิจ” แสนสาหัส “เพราะ“ม้าป่วย”มาตลอด 8-9 ปี แต่มีรายได้เหลือมากกว่าประมาณการกว่า 400,000 ล้านบาท” … ย้อนแย้งแสดงความชัดเจนว่า รัฐบาลที่รับช่วงต่อจากรัฐบาลรปภ.โง่ไร้ประสิทธิภาพ มีแต่เส้นขนมจีนล้วน/บ่มิไก๊!?!?! นี่สิครับท่านผู้นำถึงจะสำรอกสำรากอย่างถูกต้องอย่างผู้มีสามัญสำนึกและชุดความคิดว่า เพราะพวกท่านเป็นรัฐบาลถือเป็นความซวยของประเทศ ไม่ใช่ร่างพระราชบัญญัติกู้เงิน 5 แสนล้านไม่ผ่านการพิจารณาเป็นกฎหมาย… การบอกว่าประเทศวิกฤตประชาชนอดอยาก ทุกวันเป็นเวลา 3 เดือน นักลงทุนจะมาลงทุนได้อย่างไร หรือเป็นความตั้งใจที่ต้องการแช่แข็งให้ประเทศ อยู่ใน “ระบอบทักษิณ” อีกครั้ง… Nn “ไม้หน้าสาม” ห่วงอายุขัย “รัฐบาลสลายขั้ว” เสียจริง เจอพายุกระหน่ำเพราะปากพาจนโทษใครก็ไม่ได้ ทำตนเองทั้งนั้นจากกรณี “นโยบายแจกเงินดิจิทัลแก่ประชาชนผู้มีอายุครบ sixteen ปีขึ้นไป(ทุกคน) คนละ 10,000 บาท” โดยอ้างว่ากระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ โดยไม่ต้องกู้เงิน เพราะ “พรรคเพื่อไทย หาเงินได้ใช้เงินเป็น…สำรอกสำราก เพื่อ??? โดยจะเน้นด้านวิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีชั้นสูง ขณะที่มีเด็กไทยเรียนอยู่ในอเมริกาเพียง 6,000 คน น้อยกว่าเวียดนาม 4 เท่า!!!! Nn ทว่า “การเคาะกะลาให้สุนัขดีใจ” พูดถึง “เงินเดือนข้าราชการ, เงินบำนาญช้างป่วย และค่าจ้างแรงงาน” ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคในชีวิตประจำวัน มันเป็นแนวทางที่เลวร้าย จริงหรือไม่ ทำได้หรือเปล่ายัง “ต้องพิสูจน์กันต่อไป” […]